โปรโมชั่นประจำร้าน
จำหน่ายสบู่ช็อกโกแลตราคาถูก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
ว่าด้วยเรื่องของช็อกโกแลต
Chocolate Lover
ว่าด้วยเรื่องของช็อกโกแลต
ใครชอบทาน ‘ช็อกโกแลต’ บ้างคะ???
เชื่อว่าถาม 100 คน คนจะมีไม่ถึง 20 คนที่จะตอบว่าไม่ชอบ!!! เรื่องนี้สถิตินี้เราไม่ได้นั่งเทียนเขียนเองหากแต่มีการสำรวจจากผู้บริโภคทั้งในไทยและเทศออกมาแล้วต่างหากว่าคนส่วนใหญ่จะแพ้ใจตัวเองเมื่อเจอช็อกโกแลต!
คุณรู้จักช็อกโกแลตกันดีแค่ไหน???
ช็อกโกแลตมี 3 ชนิดคือ Dark Chocolate ซึ่งจะมีรสค่อนข้างขมยิ่งถ้าเป็น Bitter Dark Chocolate นี่ยิ่งเข้มและขมได้ใจเหมาะกับคนที่ไม่ชอบทานอะไรหวานๆ แต่ยังคงมีใจรักช็อกโกแลตอยู่ White Chocolateก็จะเป็นช็อกโกแลตสีขาวนวล มีรสค่อนข้างหวาน (ส่วนตัวจะเรียกว่าหวานแบบแหลมๆ) ใครที่ติดใจความหวานคงจะนิยมทาน White Chocolate มากกว่า Dark Chocolate เป็นแน่ แต่ต้องขอเตือนไว้นิดในเรื่องของความหวานและปริมาณน้ำตาลอย่าได้ตามใจปากจนลืมตัวนะคะ
มาถึงตัวสุดท้ายคือ Milk Chocolate ซึ่งเกิดมาจากการผสมสัดส่วนระหว่าง Dark & White Chocolateนั่นเองค่ะ ส่วนอัตราการใช้สัดส่วนอะไรมากน้อยกว่ากันนั้นก็แล้วแต่ยี่ห้อที่ผลิตหรือแล้วแต่สูตรใครสูตรมันค่ะ
ครวามนี้รู้จักสปา ช็อกโกแลต (Spa Chocolate) ไหมคะ???
ฉบับนี้มีเรื่องมาฝากเหล่าสมาชิก Chocolate Lover ค่ะ เพื่อนดิฉันเล่าให้ฟังว่าเขาได้ไปเข้าสปา ช็อกโกแลต มา สปาที่ว่านี้เป็นเหมือนกับบ่อน้ำ แต่ในบ่อเป็นช็อกโกแลตเหลว มีไว้ให้เราลงไปนอนแช่ประมาณนั้น เพื่อนยังเล่าให้ฟังต่อถึงสรรพคุณที่ได้รับว่ากลิ่นอันหอมหวลของช็อกโกแลตนั้นจะช่วยบำบัดในเรื่องของระบบทางเดินหายใจและด้านอารมณ์ของผู้รับบริการ ส่วนเส้นผม หนังศีรษะ และผิวพรรณนั้นก็จะได้รับความชุ่มชื่นจากCocoa Butter หรือเนยโกโก้ ซึ่งก็คือไขมันธรรมชาติที่มีอยู่ในตัวโกโก้และมีสรรพคุณอ่อนนุ่ม ช่วยบำรุงผิว
เขาบอกว่าตลอดช่วงเวลาที่ลงไปนอนแช่ช่างเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขเหลือเกินจนเขาไม่อยากจะขึ้นมาจากบ่อช็อกโกแลตเลย (แหม…ดิฉันฟังไปใจก็แอบอิจฉา อยากจะมีโอกาสลงไปนอนแช่ในบ่อช็อกโกแลตเล่นบ้างจริงๆ ค่ะ!!!)
รู้สึกเหมือนกันไหมคะว่าเวลาเราพูดถึงสิ่งที่เราชื่นชอบหรือได้ทำอะไรในสิ่งที่เรารักเราจะเพลิดเพลินและมีความสุขมาก เราจะรู้สึกว่าเวลาในการที่เราจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นๆ ทำไมช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน นี่แค่เป็นเรื่องของคนรักช็อกโกแลตอย่างดิฉันและคุณผู้อ่านมาแชร์กันเท่านั้นค่ะ เวลาของการอ่านเรื่องนี้ผ่านไปรวดเร็วจนจะจบหน้าแล้วนะคะ งั้นอดใจรอแป๊บนึงนะคะเดี๋ยวฉบับหน้าเรามาเจอและมาพูดคุยเรื่องที่เราชอบคล้ายๆ กันใหม่นะคะ สวัสดีค่ะ….
ประเถทช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มความหวาน (unsweetened chocolate) คือ ช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์หรือที่รู้จักกันในนาม ช็อกโกแลตฝาด ใช้ในการอบอาหาร และเป็นช็อกโกแลตที่ไม่มีการเจือปนใด ๆ ทั้งสิ้น ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสชาติเข้มข้มและ ลุ่มลึกของช็อกโกแลตบริสุทธิ์ แต่อย่างไรก็ดีเมื่อมีการเพิ่มน้ำตาลเข้าไป ช็อกโกแลตชนิดนี้จะใช้เป็นส่วนผสมหลักในการทำบราวนี เค้ก ลูกกวาด และคุกกี้ |
|
ช็อกโกแลตดำ (dark chocolate)คือช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มนมเป็นส่วนประกอบ ซึ่งบางครั้งก็ถูกเรียกเป็ช็อกโกแลตธรรมดา แต่ว่าทางรัฐบาลสหรัฐฯ เรียกเป็นช็อกโกแลตหวาน และกำหนดให้มีส่วนผสมของช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์เข้มข้น 15% แต่ทางยุโรปได้กำหนดให้มีส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 35% ช็อกโกแลตดำมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ป้องกันมิให้เกิดคราบไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ สาเหตุของโรคหัวใจเลือดตีบ และช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดแข็งตัว สาเหตุของการอุดตันในหลอดเลือด และป้องกันความดันโลหิตสูง | |
ช็อกโกแลตนม (milk chocolate)คือช็อกโกแลตที่ผสมนมหรือนมข้นหวาน รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดว่าหากจะเรียกว่าช็อกโกแลตนมต้องมีส่วนผสมของช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์เข้มข้น 10% แต่ทางยุโรปได้กำหนดให้มีส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 25% ช็อกโกแลตชนิดนี้มีส่วนผสมของเนยโกโก้ (cocoa butter) นม และยังเพิ่มความหวานและรสชาติลงไปด้วย ช็อกโกแลตนมนี้ใช้สำหรับแต่งหน้าขนมได้เป็นอย่างดี ช็อกโกแลตนมที่ทำในประเทศสหรัฐฯ ต้องประกอบด้วยน้ำช็อกโกแลตอย่างน้อย 10% และนมที่ไม่ได้เอามันเนยออก 12% | |
Chocolate Liquorคือผลผลิตจากเมล็ดโกโก้นำมาบดละเอียด แล้วนำมาคั้นเอาแต่น้ำ น้ำช็อกโกแลตนี้สามารถทำให้เย็นและทำให้แข็งตัวโดยใส่พิมพ์ไว้ แต่ช็อกโกแลตที่ได้เป็นชนิดที่ไม่หวาน น้ำช็อกโกแลตนี้จะมีส่วนผสมของโกโก้บัตเตอร์ประมาณ 53% | |
ช็อกโกแลตกึ่งหวาน (semi-sweet)คือ อยู่ในรูปของเหลวแล้วเพิ่มความหวานและใส่เนยโกโก้ลงไปด้วย สีของช็อกโกแลตชนิดนี้สีจะเข้ม ตามมาตรฐานของสหรัฐฯ จะมีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตประมาณ 35% และมีไขมันประมาณ 27% ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสชาติความหวานเล็ก | |
ช็อกโกแลตหวาน (sweet chocolate)ช็อกโกแลตชนิดนี้จะเพิ่มความหวานลงไปมากกว่าช็อกโกแลตแบบหวานน้อย และมีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตอย่างน้อย 15 % ช็อกโกแลตชนิดนี้ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำขนมและตกแต่งขนม และยังมีไขมันเท่า ๆ กับช็อกโกแลตแบบหวานน้อย | |
ช็อกโกแลตขาว (white chocolate)ชนิดนี้มีส่วนผสมของเนยโกโก้ แต่ไม่มีโกโก้ที่อยู่ในรูปของไขมัน แต่จะประกอบไปด้วยน้ำตาล เนยโกโก้ นมสด และใส่กลิ่นวานิลลาลงไปด้วย ช็อกโกแลตขาวนี้จะแตกหักง่าย หากเป็นของปลอมจะทำมาจากน้ำมันพืชมากกว่าเนยโกโก้ | |
Liquid Chocolateเป็นช็อกโกแลตที่ไม่หวาน ส่วนใหญ่จะบรรจุขายเป็นขวด ขวดละ 1 ออนซ์ และเนื่องจากมันไม่ละลายจึงสะดวกในการใช้มาก โดยพัฒนาขึ้นมาสำหรับใช้ทำขนมอบ อย่างไรก็ดีเนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมันพืชมากกว่าเนยโกโก้ ซึ่งเนื้อช็อกโกแลตจะแตกต่างกัน ปกติแล้วช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสไม่หวาน | |
ช็อกโกแลตชนิดกูแวร์ตูร์ (couverture)เป็นชนิดที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวคือจะเป็นมันเงา โดยปกติจะมีส่วนผสมของเนยโกโก้อย่างน้อยที่สุด 32% ทำให้มันสามารถคงตัวอยู่ในรูปของไขได้ดีกว่าชนิดเคลือบ ปกติแล้วจะใช้เฉพาะในร้านที่ทำขนมหวานเท่านั้น ส่วนใหญ่จะพบอยู่ในรูปของส่วนที่เคลือบอยู่ภายนอกผลไม้หรือหุ้มไส้ช็อกโกแลตอยู่ มีรสเผ็ด | |
Ganacheช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีลักษณะข้นมาก เป็นที่นิยมนำไปทำเค้กช็อกโกแลต Ganache ทำโดยการเทวิปปิงครีมที่นำไปอุ่นลงไปในชอคโกแลตสับในปริมาณที่เท่ากัน ทิ้งไว้สักครู่จนชอคโกแลตเริ่มละลายและคนให้เข้ากัน จะได้ส่วนผสมที่ข้นขึ้น อาจเติมเนยในปริมาณเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเงาให้กับกานาชด้วย | |
Confectionery Coatingเป็นช็อกโกแลตที่ใช้เคลือบลูกกวาด โดยนำไปผสมกับน้ำตาล นมผง น้ำมันพืช และสารปรุงแต่งรสชาติต่างๆ มีสีสันหลากหลาย ลูกกวาดที่ได้นี้ผงโกโก้จะมีไขมันต่ำ แต่จะไม่มีส่วนผสมของเนยโกโก้ เหมือนชนิดอื่น ๆ จึงแยกออกมาเป็นอีกประเภทหนึ่งได้ |
ข้อเสียของช็อกโกแลต
ข้อเสียของช็อกโกแลต
หลายสิ่งหลายอย่างมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย
อย่างสารเฟนิลไทลามิน ทีโอโบรไมน์ และกาเฟอีน อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูงได้
นอกจากนี้ช็อกโกแลตยังให้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินเอ ดี เค และธาตุเหล็กค่อนข้างสูง หากกินมากเกินไปอาจส่งปัญหาด้านสุขภาพทำให้เป็นโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
ประโยชน์ของช็อคโกแลต
ช็อกโกแลตก็มีดีต่อสุขภาพเหมือนกันนะ
ช็อกโกแลตก็มีดีต่อสุขภาพเหมือนกันนะ
- ช็อกโกแลตก็มีดีต่อสุขภาพเหมือนกันนะ (Lisa)
- ช็อกโกแลตอาหารโปรดของสาว ๆ อาจมีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ที่จริงแล้วมันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นเลย และนี่คือข้อดีของช็อกโกแลตต่อสุขภาพของคุณ
- รักษาความอ่อนเยาว์
- ตอนนี้ช็อกโกแลตถือว่าเทียบได้กับถั่วเหลืองและชาเขียวในเรื่องการเป็นอาหารที่อุดมด้วยแอนตี้ออกซิเดนท์ ที่ช่วยร่างกายในการต่อสู้กับความเสียหายที่เกิดจากมลภาวะ ยาฆ่าแมลง การสูบบุหรี่ ความเครียด และอาหารสำเร็จรูป
- เรื่องของหัวใจ
- แมกนีเซียมที่มีอยู่ในช็อกโกแลตในปริมาณสูง มีประโยชน์ต่อการทำงานของหัวใจและความดันโลหิตสูง ถึงแม้ในทางเทคนิคมันจะเป็นไขมันแบบอิ่มตัว แต่เนื่องจากกรดสเตียริกที่มีในช็อกโกแลตมีคุณภาพดี จะทำให้มันไม่อุดตันเส้นเลือด หรือทำให้เกิดระดับคอเลสเตอรอลสูง
- สู้อาการก่อนมีประจำเดือน
- ระดับโปรเจสเตอโรนที่ลดลงก่อนมีประจำเดือน ทำให้ผู้หญิงจำนวนมากเกิดอารมณ์แปรปรวนในช่วงเวลานั้นของเดือน แมกนีเซียมได้พิสูจน์แล้วว่า สามารถเพิ่มระดับโปรเจนเตอโรนในช่วงก่อนมีประจำเดือนที่ช่วยลดปัญหานี้ได้
- คลายเครียด
- ถ้าคุณเครียด เซโรโทนินสามารถช่วยได้ วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างเซโรโทนินก็คือ การออกกำลัง อย่างไรก็ตาม อาหารที่มีกรดอะมิโนทริปโตฟานสามารถเปลี่ยนเป็นเซโรโทนินในร่างกายได้ เดาซิว่าอะไรที่มีทริปโตฟานมาก ใช่แล้ว ช็อกโกแลตไงล่ะ
- ผิวสวย
- ช็อกโกแลตทำให้เกิดสิวหรือเปล่า? งานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ที่มหาวิทยาลัยเพนซิเวเนียในสหรัฐฯ ซึ่งให้คนไข้ที่เป็นสิวอักเสบจำนวน 65 คน กินช็อกโกแลตในปริมาณมาก ๆ และพบว่า 46 คนไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในเรื่องสิว 10 คนดีขึ้น และ 9 คนแย่ลง บ่งชี้ว่าช็อกโกแลตไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อการเป็นสิว
- ตื่นตัว
- ช็อกโกแลตอุดมไปด้วยพลังงานและมีกาเฟอีน จึงสามารถทำให้คุณตื่นตัวได้ในยามที่ต้องการ นอกจากนี้ ถ้าคุณเลือกช็อกโกแลตที่มีกาเฟอีนสูง ๆ มันจะมีน้ำตาลน้อยกว่าและดีกว่าสำหรับคุณ
- บรรเทาอาการไอ
- นักวิจัยพบว่าสารประกอบที่ชื่อ ธีโอโบรไมน์ ในช็อกโกแลตมีประสิทธิภาพมากกว่ายาโคดีอีนในการกดอาการไอโดยไม่มีผลข้างเคียง อย่างเช่น ง่วงนอน หรือท้องผูก
สูตรเครื่องดื่ม
โอวัลตินร้อน
– ตักโอวัลติน 2 ช้อนชา ลงในแก้ว
– เทน้ำร้อน 1/3 แก้ว คนตีให้แตกก่อนเสมอ(กรณีน้ำไม่ร้อนจะทำให้ผงไม่แตก จับกันเป็นก้อนไม่อร่อย)
– ใส่น้ำตาล 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน
– ใส่นมข้นหวาน 1 ช้อนชา
– ใส่นมสด 3 ครั้ง(นับ 1,2,..3) คนให้กัน
– เสิร์ฟพร้อมน้ำชาร้อนๆ
โอวัลตินเย็น
– ตักโอวัลติน 2 ช้อนชา ลงในแก้ว
– น้ำตาล 3 ช้อนชา
– นมข้น 2 ช้อนชา
– ใส่น้ำร้อน 1/2 แก้วคนให้เข้ากัน
– ตักน้ำแข็งเต็มแก้ว แล้วเทโอวัลตินที่ได้ลวไป
– โรยหน้าด้วยนมสด(โรยแบบเดียวกับกาแฟเย็น)
โกโก้ร้อน
– ตักผงโกโก้ 1 ช้อนชา
– น้ำตาล 1 ช้อนชา
– ใส่น้ำร้อน 1/2 แก้ว คนให้เข้ากัน
– ใส่นมข้น 1 ช้อนชา ไม่คน
– ใส่นมสด 3 ครั้ง ไม่คน
– เสิร์ฟพร้อมน้ำชาร้อนๆ
โกโก้เย็น
– ตักผงโกโก้ 1 ช้อนชา
– ใส่น้ำตาล 3 ช้อนชา
– ใส่นมข้นหวาน 2 ช้อนชา
– ใส่น้ำร้อน 1/2 แก้ว คนให้เข้ากัน
– ตักน้ำแข็งเต็มแก้ว แล้วเทลงไป
– โรยหน้าด้วยนมสด (โรยเหมือนกาแฟเย็น)
ทีเด็ด รสชาติของโกโก้ต่างกับช็อกโกแลตคือรสนุ่ม มัน สีเข้ม ราคาแพงกว่าช็อกโกแลตๆรสออกขมกว่า และทุกครั้งที่ชงร้อน(เครื่องดื่มทุกอย่าง)ต้องลวกแก้วเสมอเพราะจะทำไห้แก้วเก็บความร้อนได้นานและรู้สึกที่ดีกว่ากันนะค้าบบ…..
การทำช็อกโกแลตแบบง่ายๆ
วิธีทำช็อกโกแลตแบบง่ายๆ 1 ไม่ใช่เรื่องยาก หากใครอยากจะบรรจงปั้นแต่งช็อคโกแลตให้คนพิเศษกับมือ เพียงแค่ไปหาซื้อช๊อกโกแลตสำเร็จรูป (ที่เป็นเมล็ดแห้งหรือแท่ง)ตามซูเปอร์มาเก็ตทั่วไป เมื่อได้มาแล้วให้นำช็อกโกแลตสำเร็จรูปมาทำละลายด้วยวิธีง่ายๆ คือ – เตรียมน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส นำช็อกโกแลตใส่ในชามแก้ว แล้วลงแช่ในน้ำร้อนจนละลาย – ยกขึ้น ให้อุณหภูมิต่ำลงที่ 28 องศาเซลเซียส – จากนั้นเทใส่แม่พิมพ์ที่เตรียมไว้ทิ้งไว้ให้เย็น – ประมาณ 3 นาทีจึงค่อยแกะช็อกโกแลตออกจากแม่พิมพ์ ก็จะได้ช็อกโกแลตในรูปร่างที่ต้องการ (หากทิ้งไว้เกิน5นาทีรูปร่างช็อกโกแลตจะไม่สวย) เคล็ดลับความอร่อยของช็อกโกแลต การเก็บรักษา ที่มา คุณ mayogo www.vcharkarn.com มาเริ่มต้นด้วยการเตรียม 1.ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ เมื่อได้ส่วนผสมทั้งอย่างพร้อมแล้ว นำไขมันปาล์มไปละลายในน้ำมันปาล์มโดยใส่ภาชนะกันร้อนแล้ววางในน้ำร้อนไม่เกิน 60 องศาเซลเซียสประมาณ 3-5 นาที ระหว่างนั้นผสมผงโกโก้ นมผงและน้ำตาลไอซิ่งเข้าด้วยกัน จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมกัน โดยหลังจากยกไขมันและน้ำมันปาล์มออกจากน้ำร้อนให้รีบเทส่วนผสมทั้งหมดลงภาชนะเดียวกัน และคนให้เป็นเนื้อเดียวกันทันที ซึ่งจะได้ช็อกโกแลตเหลวๆ แล้วเทใส่ภาชนะหรือพิมพ์ที่ต้องการ ก่อนให้นำไปแช่เย็น 3-5 นาที ก็จะได้ช็อกโกแลตแท่งพร้อมรับประทาน ที่มา http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9490000104542 วิธีทำ ช็อกโกแลตเชอรี่ ชีสเค้ก ตัวแป้ง ไส้ขนม วิธีทำ โดย “Natalear” เทคนิคอย่างแรก ในขั้นตอนการทำช็อกโกแลตก็คือการตุ๋น ซึ่งจะต้องใช้วิธีการตุ๋นบนน้ำที่อุณหภูมิไม่สูงจนเกินไป ก็คือใช้น้ำอุ่นเกือบร้อน แต่ไม่ถึงกับร้อนจัด และข้อต่อมา ก็คือในระหว่างการตุ๋นนั้น สิ่งที่ห้ามเด็ดขาดก็คือไม่ให้น้ำกระเด็นตกลงมาในหม้อช็อกโกแลตเด็ดขาด เพราะไม่เช่นนั้นช็อกโกแลตของคุณก็จะไม่แข็งตัวดีเท่าที่ควร และภาชนะที่ใช้ตุ๋นก็ต้องสะอาดด้วยนะคะ ส่วนถ้าบ้านไหนมีเครื่องมือที่ช่วยในการวัดอุณหภูมิ ก็ดีไปอีกแบบ โดยวิธีการใช้นั้นให้จุ่มลงในช็อกโกแลตแค่กึ่งกลางของภาชนะ จะไม่จุ่มจนถึงก้นภาชนะที่ตุ๋นเด็ดขาด เพราะจะทำให้อุณหภูมินั้นร้อนเร็วกว่าปกติจนทำให้เกิดการผิดพลาดได้ ขอขอบคุณข้อมูลจากนิตยสาร แม่บ้าน |
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง : |
ผู้ลงบทความ : welovebakery |
มาทำเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม ให้แฟนดีกว่า…
– ผงฟู 1/4 ช้อนชา
– เบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
– กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (คุณแพรใช้แบบผง แต่จุ๋มใช้แบบน้ำค่ะ)
– เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
– ผงโกโก้ 25 กรัม
– น้ำตาลทรายป่น 90 กรัม (ถ้าหาร 2 จากคุณแพรต้องใส่ 100 กรัม จุ๋มลดลงไปเองนะคะ)
– นมข้นจืด 25 กรัม
– น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
– น้ำมันพืช 65 กรัม
– ไข่แดง 2 ฟอง
– น้ำตาลทราย 45 กรัม (ถ้าหาร 2 จากสูตรต้องเหลือ 50 จุ๋มลดลงมา 5 กรัมค่ะ)
– ครีมออฟทาทาร์ 1/4 ช้อนชาวิธีทำตัวเค้ก
นำส่วนผสม 1 ได้แก่ แป้งเค้ก น้ำตาลทรายป่น ผงโกโก้ โซดา ผงฟู ร่อนร่วมกัน 2 ครั้งคะ ถ้าใช้วนิลลาแบบผงก็ร่อนรวมกันไปเลย แต่จุ๋มใช้แบบน้ำใส่ทีหลังคะ เกลือป่นจุ๋มใส่หลังจากร่อนของแห้งอื่น ๆ แล้วนะคะ เพราะมันค่อนข้างเม็ดใหญ่ แล้วเอาช้อนให้เข้ากัน ทำหลุมตรงกลางไว้ค่ะ
– น้ำ 300 กรัม
– นมข้นจืด 200 กรัม
– น้ำตาลทราย 200 กรัม
– โกโก้ 50 กรัม
– นมข้นจืด 150 กรัม
– เหล้ารัม 1 ช้อนโต๊ะ (วันนี้ไม่ได้ใส่คะ คนที่ทำให้บอกว่าไม่ต้องใส่คะ)วิธีทำหน้านิ่ม